“คุณหมอคะ หนูคิดว่าหนูรักเขา เพราะทุกครั้งที่เจอก็มีอาการตื่นเต้น คุมตัวเองไม่ได้ ทำอะไรถูก ทำยังไงถึงจะได้เขามาคะ !!!”
ก่อนที่จะไปสู่ขั้นตอน ‘ทำยังไงถึงจะได้เขามา’ หลายๆคนอาจจะเคยมีประสบการณ์แบบผู้ปรึกษารายนี้ คิดว่าเกิดจากอะไรคะ
รักแรกพบ ?
สัญญาณเนื้อคู่หรือเปล่านะ ?
วันนี้หมอขอนำเรื่องราวของความรักในมุมมองของวิทยาศาสตร์มาเล่าให้ฟังค่ะ
ปรากฎการณ์เมื่อใครสักคนรู้สึกตกหลุมรัก ถูกแบ่งออกเป็น 3 ระยะ
ระยะที่ 1 LUST ช่วงที่มีความปรารถนา ความพึงพอใจทางเพศ ถูกขับเคลื่อนด้วยฮอร์โมนที่ชื่อว่า estrogen และ testosterone ปรากฎการณ์ในระยะนี้สามารถพบได้ในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมชนิดอื่นๆเช่นกัน
ระยะที่ 2 ATTRACTION เป็นช่วงที่มีความเสน่หา มีแรงดึงดูดต่อกัน เมื่อเกิดขึ้นแล้วให้ระวังอาการให้ดีเชียว อาจจะมีความสุข ยิ้มได้ทั้งวัน ไม่หิว นอนไม่หลับ เหงื่ออก ใจเต้นแรง เลือดสูบฉีด หน้าแดง ใครมาเจออาจจะทักกว่า ‘เป็นเอามาก’ ก็ได้ แต่จริงๆคุณผู้อ่านสังเกตไหมคะว่าระยะนี้คล้ายกับอาการของอะไรสักออย่าง….อาการของการเสพติดนั่นเอง ในระยะนี้ขับเคลื่อนด้วยฮอร์โมนที่ชื่อว่า dopamine เป็นหลัก ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับการเสพติดด้วย ดังนั้นเวลาคุณผู้อ่านเกิดระยะที่ 2 กับใคร ก็อยากจะเจอ อยากอยู่ใกล้ๆ คิดถึงตลอด ถ้าไม่เจอก็ไม่เป็นสุข อาการเหมือนลงแดงได้ค่ะ
ระยะที่ 3 ATTACHMENT ช่วงแห่งความผูกพันธ์ อย่างที่หลายๆ คนสามารถสังเกตได้ คู่รักหลายๆ คู่อยู่ด้วยกันมานานมาก และไม่ได้หวานหยดย้อยเหมือนเดิมแล้ว แต่ทำไมเขาจึงงอยู่ด้วยกันต่อ นั่นก็เพราะความผูกพันธ์ การมีสายสัมพันธ์ที่เชื่อมโยงกัน เชื่อใจ ไว้ใจกัน oxytocin คือ ฮอร์โมนที่เป็นตัวการหลักในระยะนี้ ชื่อเล่นของเขาคือ ฮอร์โมนแห่งกอด เพราะจะถูกผลิตออกมามากจากการสัมผัสกัน(skin-to-skin contact) ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจนที่สุด คือเวลาที่คุณแม่คลอดลูก คุณหมอจะอุ้มมาให้สัมผัสกับแม่ทันทีในห้องคลอด
ดังนั้น กรณีของผู้ปรึกษารายนี้ก็นับว่าอยู่ในช่วง ATTRACTION ต่อให้จะมีความสุข ไม่กินไม่นอน มีกำลังวังชามากมายขนาดไหนก็เป็นปรากฎการณ์หนึ่งของการมีความเสน่หาต่ออีกฝ่าย ไม่ใช่กามเทพแผลงศรแต่อย่างใด
มีงานวิจัยเกี่ยวกับคู่รักอยู่บ้าง จากการศึกษาหนึ่งที่สำรวจคู่รักที่มีความสุข 1,523 คู่ พบว่าพวกเขามีบุคลิกภาพ งานอดิเรก คล้ายกันถึง 86% และอีกการศึกษาหนึ่งที่สำรวจคู่รัก 1,500 คู่ พบว่าพวกเขามักมีทัศนะคติคล้ายกัน แม้จะเป็นคู่รักที่เพิ่งคบกันก็ตาม
สุดท้ายนี้หมอเห็นว่าความรักอาจเริ่มต้น ที่ dopamine แต่เพียงความรู้สึกดีในช่วงแรกไม่พอที่จะสร้างความสัมพันธ์ที่ยั่งยืน และในขณะเดียวกันเมื่อมีความสัมพันธ์ที่ยั่งยืนแล้ว เราก็ยังสามารถเติมความปรารถนา เติมความเสน่หาให้แก่กันได้ตลอด เช่น การหากิจกรรมใหม่ๆ การทำสิ่งดีๆให้แก่กัน การบอกรักกัน ก็จะสามารถรักษาความสัมพันธ์ที่หวานยั่งยืนได้ค่ะ
ขอขอบคุณที่มาจาก
https://www.mountelizabeth.com.sg/healthplus/article/the-science-behind-why-we-fall-in-lo
https://sitn.hms.harvard.edu/flash/2017/love-actually-science-behind-lust-attraction-companionship/ve#:~:text=The%20initial%20happy%20feelings%20of,us%20butterflies%20in%20our%20tummies.
เรียบเรียงโดย อ.พญ.อภิสรา สุวรรณประทีป